การเทรดโดยใช้ Stop Loss by Time และ Stop Loss by Price มีวัตถุประสงค์ในการลดความเสี่ยงที่แตกต่างกันในตลาด โดยมีรายละเอียดดังนี้:
Stop Loss by Price:
คือการตั้งจุดตัดขาดทุนตามราคาที่กำหนดไว้ เมื่อราคาลงถึงจุดที่ตั้งไว้ จะทำการขายหรือปิดสถานะการลงทุนทันที
ตัวอย่างเช่น ถ้าซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาท และตั้ง Stop Loss ไว้ที่ราคา 95 บาท ถ้าราคาลดลงถึง 95 บาท ระบบจะขายหุ้นออกเพื่อป้องกันการขาดทุนเพิ่มเติม
เหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวน ซึ่งช่วยให้ลดความเสี่ยงหากราคาวิ่งสวนทางกับการคาดการณ์
Stop Loss by Time:
คือการตั้งจุดตัดขาดทุนตามระยะเวลา โดยไม่คำนึงถึงราคาหุ้น แต่จะคำนึงถึงระยะเวลาที่ลงทุนในสินทรัพย์นั้น ๆ เมื่อครบกำหนดเวลาที่ตั้งไว้แล้ว ยังไม่เป็นไปตามแผนที่ต้องการ จะทำการขายออกหรือปิดสถานะทันที
ตัวอย่างเช่น ตั้งเป้าหมายการถือครองหุ้นไว้ 5 วัน ถ้าใน 5 วันนั้นหุ้นไม่ขึ้นหรือลดลง ระบบจะปิดการลงทุนทันที ไม่ว่าจะอยู่ในจุดกำไรหรือขาดทุน
เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการจำกัดการถือครองในระยะเวลาที่กำหนด หรือต้องการควบคุมระยะเวลาการลงทุนในตลาดที่ค่อนข้างคาดเดายาก
Stop Loss by Price จะโฟกัสที่ระดับราคาเป็นหลัก เหมาะกับการป้องกันการขาดทุนจากการเคลื่อนไหวของราคา
Stop Loss by Time จะโฟกัสที่การจำกัดระยะเวลาการถือครอง ไม่ว่าแนวโน้มจะเป็นไปทางใด เหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดการการถือครองในกรอบเวลาที่คาดการณ์ไว้
การเลือกใช้ Stop Loss แบบใดขึ้นอยู่กับแผนการเทรดและเป้าหมายของนักลงทุน
ata
Time or Price TL;DR ปล. เลิกเขียน บทความบน wc ใครอยากเล่นหาอ่านได้ที่นี้เท่านั้น
แบบนี้ดีกว่าคับจาร อ่านง่าย
ขอบคุณครับจาร คัดคนอ่าน ฮ่าๆๆ ที่สนใจเท่านั้น
ปีนี้จะเน้น สาระหน่อย เบื่อ อะไรเดิมๆ ไม่มีสาระเยอะเกินไป ฮ่าๆๆ
Time or Price
ขอบคุณความรู้ยามเช้าคับ
เขียนไปเรื่อย
เรา DCA เลยไม่ต้อง stop loss
เยี่ยม แต่สุดท้าย มันก็ ใช้ time อยู่ดีครับ เพราะเรา รู้ ทุนที่เราจะ DCA(x) และ DCA วันละเท่าไร(y) เมื่อเขียนเป็นสูตร DCA per day = y/x เช่น ทุน 1000$ วันละ 1$ DCA = 1000 / 1 = 1,000 per day
เสริม มันจะขาดทุน เชิงบัญชี แต่ตอนที่เรา DCA อยู่ ถ้าเรามองเป็น asset เราก็ไม่รู้สึก แต่พอมองเป็น asset value เท่านั้นละ ถ้า market อยู่เทรนขาลง เราจะ โอ้ยยๆๆ ปิดจอ แหะๆ
อยู่ที่ wc มาครึ่งปี อยู่อีกปีครึ่งก็น่าจะเห็นผลงาน DCA ได้ชัดพอสมควรนะงับ